ย้อนรอยเกมรุก Feishu — และจุดเปลี่ยนที่ DingTalk ต้องวางแผน
หลังจากผู้ก่อตั้ง “เฉินหัง” (หรือ “อู๋เจ้า”) กลับมารับตำแหน่งผู้นำ DingTalk ครบ 100 วัน แพลตฟอร์มก็ปล่อย “AI Spreadsheet” ที่มีฟีเจอร์ใหม่ “ตารางเป็นเอกสาร” (Spreadsheet as Document) สร้างฐานความรู้เฉพาะสำหรับองค์กร
แต่ไม่นาน Feishu ก็โต้กลับ ด้วยตารางมิติหลากหลาย (multi-dimensional table), ผู้ช่วยประชุมอัจฉริยะ และประกาศเชื่อมต่อกับ WeChat และแม้แต่ DingTalk
ผู้บริหาร Feishu ยังระบุว่า “แซง DingTalk ไปแล้วกว่า 12 เดือน” ในฟีเจอร์กลุ่มนี้
ประเด็นที่น่าจับตาในบทความ
- กลยุทธ์ของ DingTalk ยังไม่ชัดเจน: จะเน้นลูกค้า SME (ตามวิสัยทัศน์เดิมของอู๋เจ้า) หรือจะกลับมาเน้นตลาดองค์กรใหญ่แบบที่ผ่านมา?
- การจัดทีมและองค์กรเปลี่ยนแปลง: หลังอู๋เจ้ากลับมา ก็เริ่มปรับวินัยองค์กร ลดตำแหน่งบริหาร และมีการเปลี่ยนแปลงภายใน แต่กระทบการดำเนินงานหรือไม่ ยังไม่แน่ชัด
- การพัฒนา AI ยังไม่ถึงระดับ “disruptive” จริง: ทั้ง DingTalk และ Feishu เพิ่ม AI เข้าไปในเครื่องมือเดิม เช่น ตาราง เอกสาร และการประชุม แต่ยังไม่ใช่การพลิกประสบการณ์ของผู้ใช้โดยตรง
- คู่แข่งที่น่ากลัวกว่าอาจไม่ใช่กันเอง: ทั้ง Microsoft (Copilot), WPS AI และ ChatGPT ก็เข้าสู่สนามเดียวกัน และกำลังสร้าง AI Office ที่เหนือกว่าด้วยความสามารถเชิงลึก เช่น Intelligent Agent, Office แบบสร้างสรรค์
- “แพลตฟอร์มที่เป็นเครื่องมือ” vs “แพลตฟอร์มที่เป็นความสามารถ”: หาก DingTalk/Feishu เป็นแค่เครื่องมือเสริม AI ก็อาจถูกแทนที่ง่าย ต่างจาก SAP หรือ Salesforce ที่ฝังลึกในระบบบริหารและเป็น ‘ราก’ ขององค์กร
อนาคตของ DingTalk ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การมี AI ก่อนหรือหลัง Feishu แต่คือ “จะกลายเป็นความสามารถหลักขององค์กรได้หรือไม่”
และท่ามกลางการลงทุนหนักของ Alibaba ในหลายสมรภูมิ ทั้ง AI และค้าปลีกด่วน DingTalk จะรักษาแรงสนับสนุนต่อเนื่องได้แค่ไหน?